ผู้หญิงกำลังจับไพ่เพื่อเล่นโป๊กเกอร์ หวย24

กติกาไพ่โปกเกอร์ เท็กซัส โฮลเอ็ม เล่น Poker ยังไง | คู่มือเบื้องต้นสำหรับผู้เริ่มต้น


กติกาไพ่โปกเกอร์ เท็กซัส โฮลเอ็ม คู่มือเบื้องต้นสำหรับผู้เริ่มต้น และวิธีเล่น Poker ยังไงให้เซียน

โดยทั่วไป กฎกติกาและวิธีเล่นไพ่โป๊กเกอร์ เท็กซัส โฮลเอ็ม จะเริ่มเล่นโดยการให้ผู้เล่นจำนวน 2 คนลงเงิน สมอลบลายด์ และ บิ๊กบลายด์ หรืออาจมีการใช้ Antes (เงินที่ผู้เล่นทุกคนต้องลงเพื่อร่วมเล่น) เพิ่มเติมนอกเหนือจากเงินบลายด์ด้วย ซึ่งมักจะถูกใช้บ่อยๆ ในช่วงท้ายของการเล่นแบบทัวร์นาเมนต์

ทีนี้ในเรื่องของตำแหน่งปุ่มดีลเลอร์ (BTN) ปุ่มนี้จะใช้แทนผู้เล่นที่นั่งในตำแหน่งคนแจกไพ่ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้เปรียบที่สุดในเกม โดยปุ่มดีลเลอร์จะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ตามเข็มนาฬิกาหลังจากจบการเล่นในแต่ละมือ ซึ่งจะช่วยให้มีการเปลี่ยนตำแหน่งของผู้เล่นทั้งในตำแหน่งปุ่มดีลเลอร์ และตำแหน่งบลายด์ทั้งสอง

คราวนี้เกมจะเริ่มก็ต่อเมื่อผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายถัดจากตำแหน่งปุ่มดีลเลอร์วางเงินพนันที่เรียกว่า สมอลบลายด์ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีราคาน้อยกว่าราคาบิ๊กบลายด์ครึ่งหนึ่ง หลังจากนั้นผู้เล่นที่นั่งทางซ้ายถัดจากสมอลบลายด์จะต้องวางเงิน บิ๊กบลายด์  ซึ่งมักจะมีราคาเท่ากับราคาเกขั้นต่ำ ส่วนในการเล่นแบบทัวร์นาเมนต์นั้น ราคาบลายด์และ Antes จะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลาที่กำหนด และทุกครั้งที่เริ่มรอบการเล่นใหม่ผู้เล่นในตำแหน่งสมอลบลายด์จะเป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้ตัดสินใจทุกครั้ง

ในกรณีที่เหลือผู้เล่นเพียง 2 คน จะใช้กฎพิเศษในการเล่นแบบตัวต่อตัว หรือ Heads up ซึ่งจะมีการวางเงินบลายด์แตกต่างจากการเล่นปกติ โดยผู้เล่นในตำแหน่งปุ่มดีลเลอร์จะเป็นคนวางเงินสมอลบลายด์ ส่วนคู่ต่อสู้จะเป็นฝ่ายวางเงินบิ๊กบลายด์ ในการเล่นช่วงก่อนฟลอบออกมา (Pre-flop) ผู้เล่นในตำแหน่งดีลเลอร์จะได้เริ่มตัดสินใจก่อน หลังจากฟลอบออกมาแล้ว (Post-flop) ผู้เล่นในตำแหน่งดีลเลอร์จะกลายเป็นฝ่ายได้ตัดสินใจทีหลังจนจบมือนั้น

ไพ่เท็กซัส pocker มีอยู่ 3 แบบหลักๆ คือ ไพ่โฮลด์เอ็มแบบจำกัดราคาเก (Limit hold ‘em), ไพ่โฮลด์เอ็มแบบไม่จำกัดราคาเก (No-limit hold ‘em) และ ไพ่โฮลด์เอ็มแบบเกได้ไม่เกินขนาดพอท (Pot-limit hold ‘em) ไพ่โฮลด์เอ็มแบบจำกัดราคาเกนั้นเป็นรูปแบบที่นิยมมากที่สุดในทุกยุคทุกสมัยที่พบเห็นกันได้ทั่วไปในบ่อนคาสิโนในสหรัฐอเมริกา ในไพ่โฮลด์เอ็มแบบจำกัดราคาเกนั้น การลงเงินหรือการเกทับในช่วง 2 รอบการเล่นแรก (Pre-flop และ Flop) จะต้องมีราคาเท่ากับราคาบิ๊กบลายด์ ซึ่งจะเรียกว่า สมอลเบ็ท ส่วนใน 2 รอบการเล่นหลัง (Turn และ River) การลงเงินหรือเกทับจะต้องมีราคาเท่ากับ 2 เท่าของราคาบิ๊กบลายด์ ซึ่งจะเรียกว่า บิ๊กเบ็ท

ทางด้านไพ่โฮลด์เอ็มแบบไม่จำกัดราคาเกนั้นมีจำนวนผู้เล่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นรูปแบบที่เห็นได้ทั่วไปในการแข่ง Poker แบบทัวร์นาเมนต์ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ นอกจากนั้นรูปแบบการเล่นนี้ยังถูกใช้ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ขนาดใหญ่อย่าง เวิร์ลด์ซีรีส์ออฟโป้กเกอ (World Series of Poker)

ในการเล่นไพ่โฮลด์เอ็มแบบไม่จำกัดราคาเกนั้น ผู้เล่นสามารถลงเงินหรือเกทับที่ราคาเท่าใดก็ได้ โดยจะได้มากที่สุดตามชิพที่มีอยู่ของตน (หรือเรียกว่า All-in) แต่จะไม่น้อยกว่าขนาดการลงเงินขั้นต่ำ (Minimum Bet) ที่กำหนด ส่วนการลงเงินขั้นต่ำนั้นจะต้องเท่ากับราคาที่เกทับมาก่อนหน้า ในกรณีที่เราอยากจะเกทับอีกฝ่าย จะต้องเกทับในราคาอย่างน้อยเท่ากับที่เกมาก่อนหน้านี้ ตัวอย่างเช่น ถ้าบิ๊กบลายด์ราคา 2$ และมีผู้เล่นเกทับมา 6$ รวมเป็น 8$ หากเราจะเกทับกลับเราต้องเกเพิ่มอย่างน้อยเท่ากับราคาที่เกมาก่อนหน้าซึ่งก็คือ 6$ และรวมทั้งหมดจะเท่ากับ 14$

แต่หากในกรณีที่การเกทับนั้นเป็นการเทหมดหน้าตัก (All-in) แต่ราคาไม่เท่ากับที่เกมาก่อนหน้า(หรือครึ่งหนึ่งในบางคาสิโน) ผู้เล่นที่เป็นคนเกทับคนแรกจะไม่สามารถเกทับกลับได้อีก(เผื่อว่ายังมีผู้เล่นคนอื่นๆ เล่นในมือนั้นอยู่) ส่วนในไพ่โฮลด์เอ็มแบบเกได้ไม่เกินขนาดพอทนั้น ราคาที่สามารถเกได้สูงที่สุดจะเท่ากับราคาเงินกองกลาง ณ ขณะนั้น(รวมถึงจำนวนที่จะต้องจ่ายเพิ่ม)

ในบางคาสิโนที่ให้บริการเกมไพ่เท็กซัสโฮลด์เอ็มยังอนุญาตให้ผู้เล่นที่นั่งทางซ้ายถัดจากตำแหน่งบิ๊กบลายด์ (ตำแหน่ง UTG) สามารถเลือกได้ว่าจะวางเงินพิเศษที่เรียกว่า สแตรดเดิล (Straddleหรือไม่ โดยทั่วไปราคาสแตรดเดิลจะเท่ากับ 2 เท่าของราคาบิ๊กบลายด์ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้ผู้เล่นคนนั้นสวมรอยเป็นตำแหน่งบิ๊กบลายด์แทนและมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะเกทับหรือไม่เมื่อมาถึงตาของเขาอีกครั้ง (ในบางรูปแบบเกมอนุญาตให้สแตรดเดิลในตำแหน่งปุ่มดีลเลอร์ได้อีกด้วย) ในไพ่โฮลด์เอ็มแบบไม่จำกัดราคาเกบางที่ยังอนุญาตให้มีการสแตรดเดิลสวนกลับไปมาได้หลายครั้งอีกด้วย แต่ราคาที่ใช้จะต้องถูกต้องตามกฎการลงเงิน

วิธีเล่นไพ่เพื่อเดิมพันใน Poker เล่นยังไง

หลังจากดีลเลอร์สับไพ่เสร็จก็จะทำการแจกไพ่แบบคว่ำหน้าให้ผู้เล่นแต่ละคน คนละ 2 ใบ โดยผู้เล่นในตำแหน่งสมอลบลายด์จะได้รับไพ่ใบแรก และผู้เล่นในตำแหน่งปุ่มดีลเลอร์จะได้รับไพ่ใบสุดท้าย (วิธีเล่นไพ่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะใช้สำรับไพ่มาตรฐาน 52 ใบที่ไม่มีไพ่โจ๊กเกอร์) ไพ่ 2 ใบนี้คือไพ่ส่วนตัวของแต่ละคนที่จะใช้เล่น และไม่ควรจะเปิดเผยให้ใครเห็นจนกว่าจะถึงตอนโชว์ไพ่เพื่อตัดสินความแข็งแกร่งของไพ่แต่ละคน ซึ่งนี่ทำให้ไพ่เท็กซัสโฮลด์เอ็มเป็นเกมโป๊กเกอที่มีจุดสิ้นสุด

แต่ละมือจะเริ่มด้วยช่วงการเล่นแรก หรือ “พรี-ฟลอบ” ซึ่งผู้เล่นที่จะได้ตัดสินใจเล่นคนแรกคือผู้เล่นที่นั่งอยู่ทางซ้ายถัดจากตำแหน่งบิ๊กบลายด์ (หรือผู้เล่นที่นั่งทางซ้ายถัดจากคนแจกไพ่ในกรณีที่ไม่มีการใช้เงินบลายด์) และจะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ตามเข็มนาฬิกา รอบการเล่นจะดำเนินต่อไปจนกว่าผู้เล่นทุกคนจะหมอบไพ่ของตัวเอง, เทหมดหน้าตัก, หรือผู้เล่นทุกคนที่ยังเล่นมือนั้นอยู่ต่างเห็นชอบที่ราคาเดิมพันนี้และไม่มีการเกทับเกิดขึ้นแล้ว และอย่าลืมว่าเงินบลายด์ที่ผู้เล่น 2 คนโดนบังคับลงไว้ตอนช่วง พรี-ฟลอบ จะถูกนับเป็นเงินเดิมพันแล้ว ซึ่งนี่หมายความว่าผู้เล่นในตำแหน่งบลายด์ทั้งสองต่างก็เป็นผู้ร่วมลงเงินเดิมพันตั้งแต่ยังไม่ได้เห็นไพ่ของตัวเองซะด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นถ้าผู้เล่นทุกคนพร้อมใจกันเล่นมือนี้ที่ราคาบลายด์และไม่มีการเกทับกันเกิดขึ้น ผู้เล่นในตำแหน่งบิ๊กบลายด์ก็สามารถเลือกที่จะดูฟลอบได้ฟรีๆ หรือเลือกที่จะเกทับก็ได้เช่นกัน

สมมติว่าจบการเล่นช่วงพรีฟลอบและเหลือผู้เล่นที่จะเล่นกันต่ออย่างน้อย 2 คน คนแจกไพ่ก็จะเปิดไพ่กองกลางออกมา 3 ใบ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ ฟลอบ ซึ่งในฟลอบนี้จะหมายถึงการเล่นรอบที่สองและคนที่จะได้ตัดสินใจคนแรกก็คือผู้เล่นที่นั่งทางซ้ายถัดจากคนแจกไพ่และหมุนเวียนไปตามเข็มนาฬิกา

หลังจากจบการเล่นช่วงฟลอบ รอบการเล่นที่สามก็จะเริ่มขึ้นโดยไพ่กองกลางก็จะถูกเปิดออกมาอีก 1 ใบ (เรียกว่า เทิร์น หรือ สตรีทที่ 4) หลังจากจบรอบที่สามก็จะตามมาด้วยไพ่อีก 1 ใบสุดท้าย (เรียกว่า ริเวอร์ หรือ สตรีทที่ 5) และเป็นรอบการเล่นสุดท้าย ซึ่งหากจำเป็นจะต้องวัดว่าไพ่ของใครแข็งแกร่งกว่าก็จะมีการโชว์ไพ่เกิดขึ้น (Showdown) ในช่วงรอบที่สามและสี่ของการเล่น เงินเดิมพันจะเพิ่มขึ้น 2 เท่า

ในคาสิโนทุกๆ แห่ง คนแจกไพ่จะทำการ เบิร์น (การแจกไพ่ทิ้งไปเปล่าๆ  1 ใบ) ในช่วงก่อนเปิดไพ่ฟลอบ, เทิร์น, และริเวอร์ ที่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ร่วมเล่นเห็นหลังไพ่ใบต่อไป เพราะผู้เล่นอาจจะเดาไพ่ได้จากหลังไพ่ใบนั้นที่มีตำหนิหรือกลโกงต่างๆ ซ่อนอยู่

การเปิดไพ่เพื่อวัดความแข็งแกร่ง

ในกรณีที่ผู้เล่นคนหนึ่งเกทับไปแล้วผู้เล่นคนอื่นหมอบทุกคน ผู้เล่นที่เกทับก็จะได้รับเงินพอทนั้นไปโดยไม่จำเป็นต้องโชว์ไพ่ในมือของตัวเอง แต่ถ้ามีผู้เล่นยังเหลืออยู่มากกว่าหรือเท่ากับ 2 คนหลังจากจบรอบการเล่นสุดท้าย (River) ผู้เล่นที่เหลือก็จำเป็นต้องเปิดไพ่ของตนเองเพื่อวัดความแข็งแกร่ง โดยความแข็งแกร่งของไพ่จะวัดรวมจากไพ่ 2 ใบบนมือ และ 5 ใบจากไพ่กองกลางเพื่อหาไพ่ 5 ใบสุดท้ายที่มีระดับสูงที่สุดให้ผู้เล่นแต่ละคน ซึ่งผู้เล่นอาจจำเป็นต้องใช้ไพ่ทั้ง 2 ใบบนมือช่วยเพื่อให้ได้ระดับสูงที่สุด หรืออาจจะใช้แค่ 1 ใบ หรือบางทีก็ไม่ใช้สักใบบนมือเลย

ในกรณีที่ผู้เล่นได้มือที่ดีที่สุดจากไพ่กองกลางล้วนๆ 5 ใบ ผู้เล่นก็จะมีโอกาสอย่างมากสุดได้แค่แบ่งเงินพอทนั้นจากคนอื่นๆ เพราะผู้เล่นคนอื่นก็สามารถใช้ไพ่กองกลางเพื่อสร้างมือแบบเดียวกับเราได้เช่นกัน ซึ่งในกรณีที่ผู้เล่นมากกว่า 1 คน มีมือที่ดีที่สุดอยู่ ทุกคนที่มีมือนั้นก็จะได้รับเงินแบ่งจากพอทเท่าๆ กัน (Split pot) โดยหากมีเงินส่วนเกินก็จะส่งไปให้ผู้เล่นคนแรกถัดจากตำแหน่งปุ่มดีลเลอร์ก่อนและหมุนเวียนไปตามเข็มนาฬิกา เป็นเรื่องปกติมากสำหรับผู้เล่นทุกคนที่จะประเมินค่ามือของตัวเองได้ใกล้เคียงแล้วแต่มือที่ได้มีระดับไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตามผู้เล่นทุกคนต้องระมัดระวังอย่างมากในการหามือที่ดีที่สุด เพราะหากมือนั้นๆ ใช้ไพ่น้อยกว่า 5 ใบ (เช่น 2 คู่ หรือ ตอง) จะมีการนำ คิกเกอร์ เข้ามาใช้เพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ (สามารถดูได้ตามตัวอย่างด้านล่าง) ซึ่งตรงนี้ทำให้ลำดับตัวเลขของไพ่มีความสำคัญอย่างมาก และในไพ่เท็กซัสโฮลด์เอ็มจะไม่วัดระดับสูงต่ำของคิกเกอร์จากไพ่สีหรือดอกเดียวกัน (Suit Values)

ตารางไพ่ Poker: ระดับความแข็งแกร่งของไพ่ (การเรียงลำดับไพ่และการนับแต้มใน Poker)

ตารางไพ่ Poker ต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นถึงการเรียงลำดับไพ่โป๊กเกอร์ ทั้งหมด โดยจะเรียงจากแต้มต่ำที่สุดไปสูงที่สุด



        รอยัลฟลัช (Royal Flush)
รอยัลฟลัช (Royal Flush)
เป็นมือที่สูงที่สุด ประกอบด้วยเอซ คิง แหม่ม แจ็ค และ 10 ซึ่งมีดอกเดียวกัน ดอกใดก็ได้ อัตราที่จะเกิดมือนี้คือ 1 ใน 650,000 มือสเตรทฟลัช

         สเตรทฟลัช (Straight Flush)
 (Straight Flush)
(ประกอบด้วย สเตรท และ ฟลัช) สเตรทที่มีดอกเหมือนกัน ซึ่งก็คือไพ่ 5 ใบที่มีดอกเดียวกันและเรียงลำดับกัน โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 72,000 มือ

          โฟร์การ์ด (Four of a kind)
โฟร์การ์ด (Four of a kind)
ไพ่ 4 ใบที่มีแต้มเท่ากัน โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 4,200 มือ

         ฟูลเฮาส์ (Full House)
 ฟูลเฮาส์ (Full House)
ตองและคู่ นับตองก่อน โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 700 มือ

        ฟลัช (Flush)
  ฟลัช (Flush)
ไพ่ 5 ใบที่มีดอกเดียวกัน โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 510 มือ

         ตอง (Three of a kind)
   ตอง (Three of a kind)
ไพ่ 3 ใบที่มีแต้มเท่ากัน โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 48 มือ

          2 คู่ (Two pair)
  2 คู่ (Two pair)
คู่ 2 ชุด โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 21 มือ

        1 คู่ (One pair)
  1  คู่ (One pair)
ไพ่ที่มี 1 คู่ โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 2.4 มือ

           ไพ่สูง (High card)
 ไพ่สูง (High card)
ไพ่ที่ดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะหากมือต่างๆ ข้างต้นไม่มีอยู่แล้ว โอกาสที่จะเกิดคือ 1 ใน 2 มือ

ศัพท์ในเกม โป๊กเกอร์
ศัพท์ที่ใช้เรียกกันในเกมโป๊กเกอร์นั้นแม้แต่คนที่ใจแข็งที่สุดก็อาจจะตระหนกตกใจได้ แต่เราจะพยายามอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย
ต่อไปนี้คือศัพท์ที่ใช้กันทั่วไปในเกมโป๊กเกอร์:

การแจกครั้งแรก
ไพ่ชุดแรกที่แจกให้ผู้เล่นก่อนที่ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจ

ไพ่โฮล (HOLD CARDS)
ไพ่ 2 ใบแรกที่แจกให้ท่านโดยคว่ำหน้าลง จะเรียกกันอีกอย่างว่า "พ็อคเก็ตคาร์ด" ในเท็กซัส โฮลด์เอ็ม

แบ๊ดบีท (BAD BEAT)
คำนี้เป็นศัพท์ที่ใช้หมายถึงตอนที่ท่านมีไพ่ในมือที่ดีมาก แต่ก็ต้องแพ้มือที่ดีกว่า ห้องโป๊กเกอร์บางแห่งให้รางวัลแจ็คพ็อตสำหรับมือแบ๊ดบีทที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือมือแพ้ที่ดีที่สุดนั่นเอง

บิ๊กบลายด์ (BIG BLIND)
ผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายมือของเจ้ามือวางสมอลบลายด์ (เดิมพันบังคับ) ซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่ง ของเดิมพันจำนวนน้อยที่สุด ผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายมือของเขาจะวางบิ๊กบลายด์ ซึ่งมีเท่ากับเงินเดิมพันที่น้อยที่สุด

เจ้ามือ (DEALER)
คือผู้เล่นที่ได้รับการตั้งให้เป็นเจ้ามือในแต่ละมือ เขาไม่ได้เป็นคนแจกไพ่จริงๆ แต่เป็นคนที่วางเดิมพันเป็นคนสุดท้าย จึงเป็นตำแหน่งที่อาจได้เปรียบ
 

สมอลบลายด์ (SMALL BLIND)
ดู บิ๊กบลายด์



บอร์ด (BOARD)
ไพ่หงายในเกมฟล็อป

ปุ่ม (BUTTON)
แผ่นกลมที่จะบอกว่าใครเป็นเจ้ามือสำหรับมือนี้ ปุ่มนี้จะเลื่อนตามเข็มนาฬิกา (ไปทางซ้าย) ในแต่ละมือ

เงินกองกลาง (POT)
ชิปทั้งหมดที่อยู่กลางโต๊ะ เป็นจำนวนเงินที่เราจะได้เมื่อเล่นชนะ

สู้ (CALL)
เดิมพันที่เท่ากับเดิมพันที่วางอยู่ตอนนั้น

หมอบ (FOLD)
การทิ้งไพ่ เมื่อท่านคิดว่าไพ่ในมือของท่านไม่ดีพอที่จะเล่นแล้ว

ผ่าน (CHECK)
หากไม่มีการวางเดิมพันเพิ่มอีก ท่านสามาารถผ่านแล้วรอดูว่าจะมีคนอื่นวางเดิมพันหรือไม่ หากทุกคนผ่าน เกมก็จะเลื่อนไปเล่นรอบต่อไป

เก, เกทับ (RAISE, RE-RAISE)
เดิมพันที่เป็นการเพิ่มเงินเดิมพันที่วางอยู่ในตอนนั้น

เทหน้าตัก (ALL-IN)
เมื่อผู้เล่นมีชิปไม่พอที่จะ "สู้" เขาต้องเดิมพันด้วยชิปทั้งหมดที่มีรวมทั้งเงินกองกลางในตอนนั้นด้วย เดิมพันใดๆ ที่วางหลังจากนั้นจะอยู่วางไว้นอกกองกลาง เรียกว่าไซด์พ็อต และเขาจะไม่เกี่ยวข้องกับเงินไซด์พ็อตนี้ หากมือของเขาสูงที่สุด เขาจะได้เงินจากเงินกองกลางเท่านั้น แต่จะไม่ได้เงินไซด์พ็อต

ฟล็อป (FLOP)
ไพ่ 3 ใบแรกในไพ่หงายของเกมเท็กซัส โฮลด์เอ็ม หรือ โอมาฮ่า โป๊กเกอร์.

เทิร์น (TURN)
ไพ่ใบที่ 4 จากกองกลางในเกมฟล็อป

ตัวคุม (KICKER)
ไพ่แต้มสูงที่อยู่กับไพ่คู่หรือ 2 คู่

ริเวอร์ (RIVER)
ไพ่ใบสุดท้ายในไพ่หงายของเกมฟล็อป และหมายถึงไพ่ใบสุดท้ายใน 7 คาร์ด สตั๊ด.

มัคคาร์ด (MUCHKED CARDS)
การทิ้งไพ่โดยที่ไม่ให้ใครเห็นไพ่นั้น

นัท (NUTS)
มือที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในเกม มือที่ชนะทุกมือ และสมควรจะวางเดิมพันให้มากๆ

พ็อคเก็ตคาร์ด (POCKET CARDS)
มีความหมายเหมือนกับไพ่โฮล

โพสต์ (POST)
โพสต์ โดยขึ้นอยู่กับ โป๊กเกอร์ เกม.

อัตราการหักเงินกองกลาง (RAKE)
เงินที่คาสิโนดึงมาจากเงินกองกลางทุกครั้งเป็นค่านายหน้า

ฟิช (FISH)
ผู้เล่นที่อ่อนหัดที่สุดในโต๊ะ เป็นคนที่เสียเงินมากที่สุด เกี่ยวกับคำนี้จะมีสำนวนอยู่ว่า "หากมองดูไปรอบๆ โต๊ะแล้วไม่เจอคนที่อ่อนที่สุด แสดงว่าตัวคุณนั่นเองที่อ่อนที่สุด และคุณควรจะเลิกเล่นได้แล้ว"


เปิดทั้งหมด (SHOWDOWN)
เมื่อการวางเดิมพันเสร็จสิ้นผู้เล่นทุกคนจะต้องเปิดไพ่ทุกใบในมือ เพื่อดูว่าใครมีมือที่สูงที่สุด

นี่คือกติกาการเล่นโป๊กเกอร์เบื้องต้นและศัพท์ที่ใช้กันในวงการ สิ่งสำคัญในการเล่นโป๊กเกอร์คือ ความใจเย็น เล่ห์เหลี่ยม

 ไหวพริบ คุณจำเป็นที่จะต้องมีสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวไปข้างต้น เพื่อที่จะประสบความสำเร็จและเป็นผู้เล่นโป๊กเกอร์ที่ดี

รอบของการวางเดิมพัน (ROUNDS OF BETTING)
รอบของการวางเดิมพันจะจบลงเมื่อผู้เล่นทุกคนได้มีโอกาสที่จะหมอบ สู้ หรือเพิ่มแล้ว

อย่าลืมเล่นแต่พอประมาณหวยออนไลน์24  หวังว่าคุณจะเป็นผู้เล่นโป๊กเกอร์ที่ดีจากบทความนี้

 

ตัวอย่างการเล่น

ตัวอย่างเกมที่มีผู้เล่นจำนวน 4 คน และเพื่อให้เข้าใจการเล่นได้ง่ายขึ้นจึงจะไม่เปิดเผยไพ่ของแต่ละคนให้ทราบจนกว่าจะถึงตอนโชว์ไพ่

ลงเงินเดิมพันตามกฎ : อลิซนั่งในตำแหน่งคนแจกไพ่ บ็อบผู้นั่งทางซ้ายของอลิซทำการวางเงินสมอลบลายด์จำนวน $1 และแคโรลวางเงินบิ๊กบลายด์จำนวน $2

 

‘การวางเงินบลายด์ตามมือตัวอย่าง’

พรี-ฟลอบ: อลิซแจกไพ่แบบคว่ำหน้าจำนวน 2 ใบให้กับผู้เล่นแต่ละคน โดยเริ่มแจกที่บ็อบและจบที่แจกให้ตัวเอง จากนั้นเท็ดจะได้เป็นคนแรกที่เริ่มตัดสินใจเพราะเป็นผู้เล่นคนแรกที่นั่งถัดจากบิ๊กบลายด์ ในที่นี้เท็ดเลือกหมอบไพ่ของตัวเอง เนื่องจากเท็ดจะเลือกเช็ค (Check) เพื่อดูไพ่กองกลางฟรีๆ ไม่ได้ เพราะเงินบิ๊กบลายด์จำนวน $2 ถือว่าเป็นเงินเดิมพันเช่นกัน จากนั้นอลิซเลือกที่จะสู้ตาม (Call) ที่ราคาบลายด์ $2 และบ็อบในตำแหน่งสมอลบลายด์อยากดูไพ่กองกลางจึงจ่ายเพิ่มอีก 1$ เพื่อให้เท่ากับราคาบลายด์ $2 และตอนนี้เงินบลายด์ของแคโรลนับว่าเป็นเงินเดิมพันแล้ว เพราะฉะนั้นแคโรลสามารถเลือกได้เลยว่าจะเกทับ(Raise)หรือไม่ แต่แคโรลเลือกที่จะเช็คแทน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นการจบรอบการเล่นแรก โดยเงินกองกลางตอนนี้(Pot)มียอดรวม $6 ซึ่งมาจากเงิน $2 จาก 3 คน

ฟลอบ: อลิซเบิร์นไพ่ทิ้งจำนวน 1 ใบ และเปิดไพ่กองกลางแบบหงายหน้าจำนวน 3 ใบ (Flop) ประกอบไปด้วย 9♣ K♣ 3 ในรอบการเล่นนี้ก็จะเหมือนกับรอบอื่นทั่วๆ ไป คือเริ่มเล่นจากผู้เล่นที่นั่งทางซ้ายถัดจากตำแหน่งคนแจกไพ่ซึ่งในที่นี้คือบ็อบ และบ็อบเลือกที่จะเช็คเพื่อดูไพ่ฟรีๆ ตามมาด้วยแคโรลที่เลือกเปิดด้วยการลงเงินเดิมพัน $2 แต่อลิซไม่ยอมจึงเกทับเพิ่มจากราคาของแคโรลอีก $2 (ในที่นี้อลิซจะต้องลงเงิน $4 ซึ่งมาจากลงเงิน $2 เพื่อให้เท่ากับแคโรล และเงินเกทับเพิ่มอีก $2) ซึ่งทำให้ราคาเดิมพันตอนนี้มาตกอยู่ที่บ็อบจำนวน $4 แต่บ็อบบอกว่าเงินแค่นี้เองขอสู้ตามละกัน (ในที่นี้บ็อบต้องลงเงิน $4 ซึ่งมาจากลงเงิน $2 เพื่อให้เท่ากับแคโรล และลงอีก 2$ เพื่อให้เท่าราคาเกทับของอลิซ) แคโรลที่ลงเงินไว้ก่อนหน้านี้ก็ไม่ยอมเลือกที่จะสู้ตามโดยจ่ายเพิ่มอีก $2 ทำให้ตอนนี้เงินกองกลางรวมสุทธิที่ $18 โดย $6 มาจากรอบการเล่นที่แล้ว และอีก $12 มาจากทั้ง 3 คนในรอบการเล่นนี้

เทิร์น: อลิซเบิร์นไพ่ทิ้งอีก 1 ใบ และเปิดไพ่ใบที่ 4 (Turn) จำนวน 1 ใบและไพ่ที่ได้คือ 5♠ บ็อบเห็นไพ่มาอย่างนี้ก็เลือกเช็ค แคโรลก็เช็คและอลิซก็เช็คตามๆกันไป ในรอบนี้ผู้เล่นทุกคนเลือกเช็คจึงทำให้เงินกองกลางสุทธิยังเท่าเดิมที่ $18

ริเวอร์: อลิซทำการเบิร์นไพ่ทิ้งอีก 1 ใบ และเปิดไพ่ใบสุดท้าย (River) ซึ่งออกมาเป็น 9 ทำให้ไพ่กองกลางสิ้นสุดที่ 9♣ K♣ 3 5♠ 9♦ บ็อบเหมือนจะมีของดีลงเงินเดิมพันไป $4 แคโรลไม่รอช้าสู้ตามทันทีที่ราคา $4 และอลิซเลือกที่จะไม่สู้ต่อและหมอบไพ่ของตัวเองไป (ในที่นี้อลิซถือไพ่ A♣ 7♣ และกำลังลุ้นให้ตัวเองได้ไพ่ดอกจิกอีก 1 ใบที่ริเวอร์ เพื่อให้ตัวเองเข้า Flush)

โชว์ไพ่เพื่อวัดความแข็งแกร่ง: บ็อบโชว์ไพ่ตัวเองคือ Q♠ 9 เพราะฉะนั้นมือที่ดีที่สุดของบ็อบที่เป็นไปได้ในที่นี้คือ 9♣ 9♦ 9 K♣ Q♠ หรือก็คือ ตอง 9 โดยมี Kกับ Q เป็นคิกเกอร์ แคโรลโชว์ไพ่ตัวเองบ้าง K♠ J เพราะฉะนั้นมือที่ดีที่สุดของแคโรลที่เป็นไปได้ในที่นี้คือ K♣ K♠ 9♣ 9♦ J หรือก็คือ 2 คู่ KK 99 และมี J เป็นคิกเกอร์ และแน่นอนว่า ตอง ชนะ 2 คู่ ทำให้บ็อบชนะการโชว์ไพ่ครั้งนี้และได้รับเงินกองกลาง (Pot) ไปทั้งหมด $26

คิกเกอร์และการเสมอ

เนื่องจากในไพ่เท็กซัสโฮลด์เอ็มมีการใช้ไพ่กองกลาง จึงทำให้ผู้เล่นได้มือที่มีระดับใกล้เคียงกันอยู่บ่อยๆเลยทำให้มีการใช้คิกเกอร์เข้ามาช่วยวัดเพื่อหาผู้ชนะหรือทำให้มือของผู้เล่นสองคนเสมอกัน(หรืออาจจะมากกว่า) คิกเกอร์ก็คือไพ่ที่เป็นส่วนหนึ่งของไพ่ 5 ใบที่ใช้สร้างมือที่ดีที่สุดแต่ไม่ได้ช่วยในการเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของมือนั้น ตัวอย่างเช่น ในมือ AAAKQ ในที่นี้ K และ Q จะทำหน้าที่เป็นคิกเกอร์

สถานการณ์ตัวอย่างต่อไปนี้จะช่วยให้เห็นภาพว่าคิกเกอร์มีความสำคัญอย่างไรในการวัดผลแพ้ชนะ โดยมือของผู้เล่นที่แสดงให้เห็นนี้จะอยู่ในช่วงหลังจากไพ่เทิร์นออกมา

ไพ่กองกลาง (หลังจากไพ่เทิร์นออก)

บ็อบ

แคโรล

ณ ตอนนี้บ็อบยังถือไพ่นำอยู่ซึ่งก็คือ Q♠ Q♣ 8♠ 8 K หรือก็คือ 2 คู่ QQ 88 โดยมี K เป็นคิกเกอร์ ซึ่งชนะไพ่ของแคโรลที่ถือ Q Q♣ 8♠ 8 10♦ โดยมี 10 เป็นคิกเกอร์

ถ้าสมมติไพ่ใบสุดท้าย (River) ออกมาเป็น A♠ และทำให้ไพ่กองกลางสิ้นสุดที่ 8♠ Q♣ 8 4♣ A♠ บ็อบกับแคโรลจะยังคงมีมือเหมือนเดิมคือ 2 คู่ (QQ กับ 88) แต่เนื่องจากการหามือที่ดีที่สุดจะคัดไพ่ที่ดีที่สุด 5 ใบ จาก 7 ใบ ทำให้ผู้เล่นทั้งสองคนจะต้องนำไพ่ A ที่เพิ่งมาใหม่มาใช้เป็นไพ่ใบที่ 5 แทน ซึ่งจะทำให้มือของผู้เล่นทั้งสองเหมือนกันคือ 2 คู่ QQ 88 และมี A เป็นคิกเกอร์ ซึ่งในที่นี้คิกเกอร์ K ของบ็อบจะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไปเพราะไพ่ A ที่ออกมาใหม่สูงกว่า K จึงไปทำหน้าที่คิกเกอร์แทนและยังไปช่วยเป็นคิกเกอร์แทน 10 ของแคโรลด้วย จึงทำให้มือของทั้งสองคนเสอมกันและแบ่งเงินกองกลางกันไปคนละครึ่ง แต่ถ้าหากว่าไพ่ที่ออกมาใบสุดท้ายเป็น J หรือต่ำกว่า(ยกเว้น 8 หรือ Q เพราะจะทำให้เป็นฟูลเฮาส์ หรือ 10 ซึ่งจะช่วยให้แคโรลมีคู่ที่สองใหญ่กว่าซึ่งก็คือ 1010) จะทำให้คิกเกอร์ K ของบ็อบยังสามารถใช้ได้และทำให้เป็นผู้ชนะมือนี้และได้เงินกองกลางทั้งหมดไป

 


Date: 14 September 2023    ความคิดเห็น: 13


ความคิดเห็น - 13

Kasha

free

Elinor

Neat Web site, Maintain the great work. Thank you. https://www.ta-praca.pl

Lila

Southeast Financiial Nashville 131Belle Forest Cir #210, Nashville, TN 37221, United Ѕtates 18669008949 Southeast Financial Planning expertise

Celinda

Discover the latest updates on the new Siem Reap Airport: the new hub for tourism in northern Cambodia

Grover

erotica

Abigail

Stability Healthcare San Pedro 222 Ꮤ 6th Ѕt Suite 330, San Pedro, CA 90731, United Statеѕ 18557424767 Bookmarks [https://www.protopage.com]

Darby

News media endorsements in the 2020 United States presidential election

Rosalinda

News media

Coral

newspaper obituaries online

Lemuel

La anticipación que generas en tu blog al adelantar temas futuros mantiene a tus lectores emocionados y comprometidos. ¡Siempre hay algo emocionante que esperar! escuadras vintage para estanterias - Comprar pintura para casa

Emmanuel

La habilidad para mantenerte actualizado con las tendencias en tu blog es digna de reconocimiento. Siempre estás un paso adelante, ofreciendo contenido relevante. ¡Impresionante! kit juego de herramientas eléctricas - guantes de trabajo delta plus

Inez

La ética que mantienes en tu blog, ofreciendo información precisa y objetiva, es digna de reconocimiento. ¡Gracias por ser una fuente confiable! parking 5 niveles con 1 helicóptero y 2 coches - herramientas de corte de fresado

Ivy

abc news


ทิ้งข้อความไว้